วันพุธที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เอริค ผู้สร้างประโยคฮิค คีย์บอร์ดนี่ขายไปแล้วเหรอ





คนที่สร้างประโยค “คีย์บอร์ดขายไปแล้วเหรอ ? คอมเมนท์ที่มีคนชอบมากที่สุดในอินเตอร์เน็ต ได้รับการเปิดเผยว่าจริงๆแล้วเป็นความเห็นของเอริค ต้นเหตุของความฮา

เมื่อบ่ายวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา คิม ดงวาน โพสต์ หัวข้อบล็อกของตัวเองว่า” 2012″  เป็นภาพคอมเมนท์ว่า  คีย์บอร์ดขายไปแล้วเหรอ? ซึ่งเคยเป็นคอมเมนท์ที่เรียกเสียงฮาในอินเตอร์เน็ตเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว

ซึ่งในภาพ ผู้ซื้อถาม  คีย์บอร์ดขายไปแล้วเหรอ? ไปยังผู้ขาย  ซึ่งตอบกลับว่า ”ใช่”  หลังจากนั้นผู้ซื้อถามกลับมาว่า” ทำไม ? ” (เอริคถามว่าทำไมถึงขาย ฮา อะ)  ซึ่งสร้างเสียงหัวเราะให้กับคนที่เห็นคอมเมนท์นี้
โดยดงวาน  เป็นผู้ที่ทำให้คนช็อคที่เปิดเผยว่าเป็น เอริค โดยเขียนว่า” ถ้าพวกเขารู้ว่าเป็นเอริค จะขำกันมั๊ย ?

แฟนคลับที่พอรู้ว่าเป็นเอริค บางคนก็ให้ความเห็นว่า สุดยอด นี่แหละ เอริค  ก็เพราะเป็น มุน จอง ฮยอค ถึงได้เขียนแบบนั้น นี่แหละใช่เขาเลย

วันพุธที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Eric Shinhwa






ในวันที่ 2 สิงหาคม นักร้องสาว ‘อี ฮโยริ (Lee Hyo Ri)’ ได้เผยภาพในอดีตของเธอผ่านทางทวิตเตอร์ พร้อมได้แสดงความเห็นไว้ว่า
“ฉันเจอภาพพวกนี้ในขณะที่ฉันกำลังจัดของอยู่ค่ะ ตอนนั้นอายุ 20 ปี ฉันดูบริสุทธิ์มาก ถึงแม้ว่าความจริงจะไม่ใช่แบบนั้น ฮ่าฮ่า”

        
อีฮโยริได้เปิดเผยภาพเก่าๆ หลายภาพในสมัยที่เธอยังอยู่เกิร์ลกรุ๊ปวง Fin.K.L และ ‘เอริค (Eric)’ ผู้ซึ่งอยู่วงบอยแบนด์ Shinhwa ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่วง Fin.K.L กำลังออกผลงานเพลงตอนนั้น เอริคได้ทิ้งคอมเม้นท์ไว้ว่า
ผมจำได้ว่าผมตกหลุมรักคุณ ตอนที่ผมได้เห็นภาพของคุณเป็นครั้งแรก ตอนที่ผมยังเด็กๆ ดูคุณในตอนนี้ซิ โตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากเลยนะ!”
อีฮโยริตอบกลับเอริคว่า “ฉันรู้ว่าตอนนั้น พวกเราเป็นคู่แข่งกันค่ะ ฉันอยากจะเห็นภาพในอดีตของคุณตอนคุณทำสีผมไฮไลท์จังค่ะ"
 เอริคตอบกลับว่า “ได้เลย ภาพผมอยู่ไม่ไกล” พร้อมกับโพสภาพในอดีตของเขาตอนทำสีผมไฮไลท์สมัยอยู่วง Shinhwa ใหม่ๆ ในระหว่างการสนทนาของทั้งคู่นั้น มีแฟนคลับคนหนึ่งได้โพสข้อความว่า “พวกคุณน่าจะแต่งงานกันนะ!” เอริคจึงถามอีฮโยริว่า “อีฮโยริคุณคิดเห็นยังไงกับเรื่องนี้ครับ?” และอีฮโยริ ตอบกลับมาว่า “ฟังดูเข้าท่าดีนะ” ซึ่งสร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับแฟนๆเป็นอย่างมาก

เอริคตอบกลับเธอว่า “ฟังดูดีสำหรับผมเหมือนกันครับ แต่ผมไม่กล้าหาญพอที่จะท้าทายกับนักร้องรุ่น พี่ คิม ดงรยูล ครับ มันเป็นสิ่งที่มักจะเกิดขึ้นกับพวกเรานะครับ ฮ่าฮ่า” ก่อนหน้านี้มีข่าวลือเกี่ยวกับอีฮโยริและคิมดงรยูลเรื่องที่พวกเขาเคยแต่ง งานกันไปแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันใดๆทั้งสิ้นจากทั้งคู่
ชาว เน็ตเมื่อเห็นข้อความต่างแสดงความคิดเห็นว่า “พวกคุณควรแต่งงานกัน พวกคุณจะเป็นคู่ที่ยอดเยี่ยมมากๆเลยนะ” , “สเป็กของคุณเปลี่ยนไปเยอะเลยนะฮโยริ” และ “จะเป็นยังไงถ้าพวกคุณทำอัลบั้มเพลงด้วยกันนะ”

วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

Happy 15th Anniversary Shinhwa : eric shinhwa












[สัมภาษณ์] นิตยสาร GQ – Eric (ฉบับเดือน มิถุนายน 2013 ) Eric Shinhwa





Q: ได้ติดตามรายการ SNL> และ Radio Star ตอนออกอากาศบ้างมั๊ย?
A: มันทำให้ผมได้ค้นพบอีกครั้งว่า กระทั่งถึงตอนนี้ เฮซอง เป็นคนเดียวในวงที่แสดงไม่เก่ง

Q: ที่ผ่านมาได้ยินเวลาคุณไปออกรายการต่างๆพิธีกรมักจะให้พูดประโยคจากละครที่ ว่า “คุณได้กลิ่นอะไรไหม้มั๊ย ” ซึ่งคุณไม่อาจทนดูตัวเองตอนแสดงแบบนั้นได้ แต่ได้ข่าวว่าตอนนี้คุณ เริ่มพูดประโยคนี้ได้อย่างสบายๆ ตอนถ่ายทำรายการ ?
A:ไม่ใช่เพราะผมอึดอัดที่เพื่อนร่วมวงชอบล้อหรือบอกให้ผมพูดประโยคนี้ตอน ไปออกรายการต่างๆ เพียงแต่กังวลว่าคนดูจะเบื่อต่างหากเพราะเอามาใช้บ่อยเกินไป เป็นประโยคที่คิดว่าจะสร้างเสียงหัวเราะให้กับรายการได้ แต่ตอนนี้ผมสามารถนั่งดูตัวเองพูดประโยคนี้ได้สบายๆคงไม่ใช่เพราะผมเก่งขึ้น แต่คงเพราะต้องพูดเยอะจนชินต่างหาก

Q: ตอนดูรายการ Shinhwa Broadcast รู้สึกว่าคุณเปลี่ยนไปเป็นคนละคน แต่พอมานั่งดูรายการRadio Star คุณก็กลับมาเป็นปกติแบบนี้ คงเพราะสถานการณ์ที่ทำให้คุณเป็นอีกคนที่ไม่ใช่ตัวตนของคุณ
A: แรกๆผมก็เกร็งและระมัดระวังกิริยามากกว่าตอนถ่ายทำShinhwa Broadcast แต่ พอได้ถ่ายทำกับเพื่อนๆในวงก็ทำให้รู้สึกสบายใจไม่เกร็ง และตอนนี้ก็สนิทกับสต๊าฟด้วย นั่งจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมกล้าทำอะไรแบบนั้น แต่ถ้าผมไปออกรายการอื่นผมก็คงกลับมาเป็นตัวผมเองเหมือนเดิม


Q: ตอนี่ถามเกี่ยวกับว่าคุณได้ตามดูรายการไหนบ้างคุณตอบคำถามโดยคิดว่าตัว เองอยู่ในฐานะ ชินฮวา อย่างนั้นฉันเรียกคุณว่า เอริค ชินฮวา ไม่ใช่ เอริค เฉยๆ ใช่มั๊ย ?
Aแม้ว่าผมจะหลงไหลดนตรี แต่แท้จริงแล้วสิ่งที่ทำให้ผมอยากเป็นนักร้องในตอนนั้นเหตุผลง่ายๆเลยคือ มันเท่ห์ดี อย่างไรก็ตามหลังจากผ่านการเป็นนักร้องมาหลายปี นั่นเป็นเรื่องที่เป็นไป ตั้งแต่
ต้นผมเป็นนักร้องเพราะต้องการจะเป็น และเริ่มต้นในฐานะชินฮวา แต่ถ้าผมต้องสูญเสียความตั้งใจเดิมเพราะการจูงใจจากบริษัทอื่นที่ดีกว่ามัน คงไม่เจ็งแน่ การเป็นนักแสดงหรือนักร้องมันแยกกัน
อย่างสิ้นเชิง ผมรู้ดีว่าพื้นฐานของการอยู่ได้อย่างยาวนานในวงการนี้คือความซื่อสัตย์และ การได้รับการยอมรับ พวกเราถูกจดจำในการเป็นไอดอลกรุ๊ป เกาหลีที่อยู่กันได้นานที่สุดไม่มีสิ่งใดที่เราทำ
หรือต้องคิดไปกว่านี้ ตอนนี้แฟนๆและวงการเพลงกำลังมองดูเราในฐานะต้นแบบ เราจึงต้องระมัดระวังในการวางตัวมากยิ่งขึ้น

Q: มีบ้างมั๊ยเวลาทำงานกันเป็นทีมแล้วมีการตักเตือนว่ากล่าวกันเพื่อให้เพื่อนร่วมวงทำอย่างที่คุณหวัง?
A: ฮาฮา เรามักเป็นข่าวบ่อยๆเกี่ยวกับความขัดแย้งในวง แต่ยังไม่มีเหตุการณ์ใดที่ใหญ่พอให้เราต้องตัดสินใจในการออกจากวงการ อย่างไรก็แล้วแต่ เรากลับสนิทกันมากขึ้น
เมื่อใดที่เราเริ่มขี้เกียจตอนที่ทุกอย่างกำลังไปได้สวย หรือ เราไม่รู้สึกดีใจมากมายตอนได้รับความรัก นั่นแหละคือเวลาที่พวกเราต้องตื่น

Q: แล้ว เอริค ชินฮวา ต่างกับ มุน จองฮยอค ยังไง?
A: ผมเป็นคนมองโลกในแง่ดีและขี้เกียจ ในฐานชินฮา ถ้าผมไม่คอยมองการณ์ไกลว่าชินฮวาต้องทำยังไงที่สามารถเป็นจริงได้ ก็จะทำให้ผมยิ่งเป็นคนที่ขี้เกียจมากๆ ผมไม่คิดว่าผมจะไปไหนมาไหน
บ่อยๆ ชินฮวา คือเหตุผลใหญ่ว่าทำไมผมถึงสามารถทำงานได้อย่างบ้าคลั่ง

Q: คุณไม่อยากออกอัลบั้มเต็มของคุณบ้างหรือ อัลบั้มที่มีแต่ท่อนแร็พภาษาอังกฤษ
A: เพราะผมเป็นคนเขียนท่อนแร็พเกือบทุกเพลงตั้งแต่อัลบั้มที่ 1 ตอนนี้ก็ไม่ค่อยจะมีหัวข้ออะไรที่หยิบยกเอามาเขียน ตอนผมเขียนเนื้อท่อนแร็พ ผมก็จะเขียนโดยเอาประสบการณ์ที่ผมประสบมา มา
เขียนเป็นท่อนแร็พ และหากเขียนมันลงไปแล้วนำไปบันทึกเสียง คงไม่ดีแน่ที่จะได้ยินมาซ้ำในอนาคต ฮาฮา ถ้าหากมีบางคนแนะนำว่าผมควรเขียนเนื้อร้อง ถ้ามันไม่ช็อค หรือ ไม่ก็ พิลึก ผมคง
ต้องบอกว่าผมคงไม่ทำ ในกรณีที่ผมพูดเยอะบางทีผมก็อาจเผลอแสดงความคิดต่างของผมออกมาก็ได้ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงไม่ค่อยพูด

Q: แล้วทวิตเตอร์ละ?
A:ไม่ง่ายที่ต้องทำเพื่อทุกคน ดูเหมือนคุณจำต้องเป็นคนที่มีจิตสำนึกเพื่อคนอื่น ผมเคยคิดว่าผมสามารถให้คำแนะนำ ในฐานะคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อน แต่เมื่อมองย้อนกลับไป มันเป็นการเขียนเพื่อ
ตัวผมเอง เพื่อแก้เบื่อ หรือ อาจจะเป็นความกลัวในผลตอบรับ เพราะผมมักจะสงสัยในผลตอบรับจากแฟนๆเสมอ ถ้าผมไม่ได้ทำเพื่อคนอื่นจริงๆ แน่นอนว่าผมก็ไม่ควรที่จะทวิต

Q: แล้วคุณไม่เขียนไดอารี่ ใช่มั๊ย?
A: ครับ ถ้าผมไม่ต้องทำอะไรผมจะก็จะกลายเป็นคนเกียจคร้านมากๆ ฮาฮา ตอนนี้ผมมาคิดดูแล้ว เพราะทวิตเตอร์หรือเปล่าที่ทำให้ผมไม่ขี้เกียจ

Q: เพราะคุณรู้ว่าไม่ควรยึดติด ดังนั้นคุณจึงทำในสิ่งที่เป็นไปได้และวางกลยุทธ์ในการทำงาน?
A: ถ้ามินอูมีความคิดเพ้อฝันแบบศิลปิน ผมก็เป็นคนที่อยู่ในโลกแห่งความจริง ผมไม่ชอบการทำผิดพลาด ไม่ชอบเป็นต้นเหตุที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนและยังเกลียดที่จะต้องโด่นดุว่า ผมเป็นคนหนึ่ง
ละที่คิดว่า” แม้ถ้าผมไม่ได้รับคำชม อย่างน้อยผมก็ไม่ควรโดนต่อว่า” แล้วมินอูก็เป็นคนประเภท”ต้องกลายเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดและควรได้รับคำ ชม”

Q: เป้าหมายของคุณปีที่แล้วในการคัมแบ็ก ประสบความสำเร็จอย่างดี ชินฮวา แฟนคลับในเกาหลีกลับมารวมตัวกันอีกครั้งในรอบสี่ปี อะไรคือกลยุทธ์ในปีนี้
A: ตอนนี้เราได้คุยกันเรื่องอัลบั้มกับการแสดงบนเวที ปีที่แล้วเราต้องการปลดปล่อยความรู้สึก อาทิไอดอลรุ่นแรก,ไอดอลที่อยู่ยาวนานที่สุด รางวัลในความสำเร็จของชีวิต การมาเป็นนักร้องเช่นนั้น
เราต้องขึ้นแสดงในรายการ Music Cor,Music Bank ทีแรก เพราะว่ามันดูเหมือนว่าเราไปถึงจุดนั้น ดังนั้นเราจึงได้ทุ่มเทในการทำอัลบั้มและการแสดงของเรา ปีที่แล้วเรามีเพลงให้เลือก 200 เพลง ปีนี้
เรามีเพลงให้เลือกถึง 500 เพลง ในอัลบั้มเต็มอัลบั้มที่11 แต่ละเพลง สมาชิกในวงแต่ละคนก็ชอบไม่เหมือนกัน ชอบบ้างไม่ชอบบ้าง แต่ตอนนี้ เราทุกคนต่างพูดเป็นในแนวทางเดียวกันในแต่ละ
เพลงของอัลบั้มทุกเพลง

Q: งั้นแต่ละเพลงก็คงต้องเลือกโดยใช้การลงมตินะซิ?
A: ใช่ครับ ยกตัวอย่างเพลงที่เราเลือกมาเป็นเพลงโปรโมต มีสองเพลงให้เลือกคือ “Scarface” และ “This Love”.
“This Love” เป็นเพลงที่ดูเหมือนจะนำเสนอสีสันของชินฮวา อย่างไรก็ตาม ตอนที่เราเห็นท่าเต้น เราต้องก็ร้องว่า “OMG”.(โอวมายก็อด) เราได้ปรึกษากันว่าเราควรจะเลือกเพลงที่บ่งบอกถึงความ
รู้สึกของเราและสร้างความช็อคในกับทุกคนที่เห็นด้วย และท้ายที่สุด เราตัดสินใจที่จะเดินไปกับเพลงที่ทำให้เราต้องอุทาน“OMG”.(โอวมายก็อด)
ถ้าพูดถึงความช็อคในท่าเต้นของเราเราทำสำเร็จแล้วกระทั่งณ ตอนนี้ มันไม่ใช่“Wild Eyes” ที่เราเต้นมีเก้าอี้ประกอบ นี่เป็นการเต้นที่อย่างกว่านั้น

Q: ดูเหมือนการเป็นชินฮวา บางทีอาจพูดได้ว่ามีเหตุผลที่ว่าทำไมชินฮวาถึงได้มาไกลขนาดนี้ เพราะความเสียใจและเห็นใจซึ่งกันและกัน นั่นอาจจะไม่ผิดนักแต่ฉันรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่สำคัญ
กว่าสิ่งใดแทนที่จะยืนอยู่ในที่ของตัวเองเพื่อความปลอดภัย คุณเอาชนะมาได้บนเส้นทางของคุณณตรงนี้ ความสัมพันธ์ของสมาชิกในวงดูเหมือนจะผ่านการขัดแย้งมาเยอะ
A: ไม่ใช่แค่ความจงรักภักดีและการเห็นใจซึ่งกันและกันที่เป็นตัวขับเคลื่อน แต่เราเน้นที่เหตุผลเป็นหลัก คำตอบหลักๆที่ไอดอลตอบในรายการตางๆไม่ใช่ความรู้สึกนั้น สำหรับผู้ชายที่อายุสามสิบที่
รู้ชัดแจ้งว่าพวกเขาต้องการอะไร สิ่งสำคัญที่พวกเขาต้องมีคือฉันทามติ มันไม่ใช่แค่ความจงรักภักดี แต่พวกเราคือครอบครัว คือพี่น้องกัน การแสดงออกที่ทำให้รับรู้ว่าเราคือคนสำคัญ มันมีค่ามาก
อย่างไม่นานมานี้ วันพ่อ พ่อผมส่งภาพของช่อดอกไม้มาให้ พร้อมกับบอกว่าช่อดอกไม้นี้จอนจินเป็นคนส่งมาให้ เพราะผมหมกมุ่นกลับการคัมแบ็กผมแค่ส่งข้อความสั้นๆไปอวยพรพ่อ ตอนที่เรา
กำลังสัมภาษณ์กับสื่อทั้งสิบแห่งในคราวเดียวกัน จอนจินส่งช่อดอกไม้เหล่านั้นไปให้พ่อแม่ของเราทุกคน เมื่อใดที่ผมไม่สามารถทำหน้าที่ลูกได้ แม้ว่าผมจะไม่มีน้องชาย เขาจะทำสิ่งเหล่านั้นแทนผม
เสมอเหมือนกับว่าเขาเป็นน้องชายผม นั่นคือสิ่งที่คนในครอบครัวทำกันไม่ใช่เหรอ ?

Q: คุณออกอัลบั้มใหม่ช่วงเวลาเดียวกับปีที่แล้ว คุณตั้งใจจะออกอัลบั้มใหม่ทุกปีใช่มั๊ย?
A: แม้ว่าตอนนี้คนนิยมออกมินิอัลบั้มหรือดิจิตอล ซิงเกิ้ลกัน มากกว่าสิ่งอื่นใดเราทำเพื่อแฟนหรือเพื่อก้นบึงหัวใจของพวกเรา การออกอัลบั้มใหม่ทุกๆปีดูเหมือนจะเป็นเอกลักษณ์ของชินฮวา
เราเริ่มชอบแบบนี้และชินฮวาจะไม่มีวันเปลี่ยน ถ้าชินฮวายังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนๆเพราะการทำงานต่อเนื่องของเรา แล้วผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่เราควรจะทำมันต่อไป

Q: SMAP เป็นวงต้นแบบของชินฮา ที่ยังร้องและเต้นไม่ได้ดีมากกว่า 20 ปี อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็มีวาไรตี้ที่สร้างให้พวกเขามีพรสวรรค์ในฐานะนักร้องกลายพันธ์ เราได้คุยเรื่องโปรโมตอัลบั้มไปแล้ว ที่นี้ฉันอยากจะถามเรื่องเกี่ยวกับการร้องเพลงที่เป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุด บ้าง
A: สมาชิกแต่ละคนอาจมีความเห็นต่างกันในเรื่องนี้ แม้ว่าผมชอบ SMAP หลังจากได้เรียนรู้เกียวกับพวกเขา ผมไม่ใช่แฟนตัวยง แท้จริงแล้วผมอิจฉาพวกเขามากเวลาที่พวกเขาขึ้นคอนเสิร์ต พวก
เขาได้รับความรักจากแฟนๆมาอย่างยาวนานและแฟนๆของพวกเขาก็จะพาลูกๆหลานๆมา ดูคอนเสิร์ตเขาด้วย ที่ผ่านมานั้นเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อสำหรับเรา อย่างไรก็ดีเราไม่ต้องการเป็นแบบนั้นเพราะ
เราคิดว่าเราควรจะ แต่เรากำลังทำงานกันอย่างหนัก นั่นคือสิ่งที่เราทำมาเสมอ สิ่งเหล่านั้นส่งผลให้เรามาเป็นเช่นนี้

Q: นอกจากี้ SMAP ยังมีรายการวาไรตี้ที่ยาวนานอย่างSMAP X SMAP พวกเขาแต่ละคนทำอะไรที่อยากทำกับตามรูปแบบของตัวเอง จะเรียกได้มั๊ยว่าตลอดรายการ พวกเขาเข้าสู่การเป็นเอน
เตอร์เทนเนอร์. แล้วจะเป็นไปได้มั๊ยกับรายการ Shinhwa Broadcast?
A: ประการแรก Shinhwa Broadcast ไม่ใช่รายการที่เลียนแบบ SMAP X SMAP สิ่งสำคัญมันอยู่ที่ว่า เป็นรายการที่สามารถลดความแตกต่างระหว่างสมาชิกที่ทำได้ดีกับสมาชิกที่ไม่ สามารถทำได้
การใช้ชัวิตในวงการบันเทิงในฐานะนักร้องและนักแสดงเป็นสิ่งที่กดดันมากๆ และแม้ว่าอาจจะเกิดความขัดแย้งกัน มันคงเหมือนการเดินอยู่บนน้ำแข็งบางๆ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราสามารมอง
ย้อนกลับไปเสมอ เราไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นเช่นไร เป็นอะไรที่แตกต่างยามคุณทำแล้วตกเป็นผู้ถูกล่า หรือยามที่คุณอยู่ในที่ที่ปลอดภัย คุณเห็นได้จากตั้งแต่ตอนแรกของShinhwa Broadcast เรา
ปราศจากความคิดที่ว่า”อา เราทำไม่ได้ ,ระวัง ระวังหน่อย ” 

วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2556

Eric งานแถลงข่าวคอนเสิร์ต 15 ปี


         ในงานแถลงข่าวคอนเสิร์ต 15 ปี ชินฮวา เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมาที่โอลิมปิก ยิมเนเซี่ยม ในกรุงโซล
 
         ชินฮวาได้กล่าวขอบคุณแฟนๆและสต๊าฟและเหล่าสมาชิกชินฮวาด้วยกันที่ทำให้พวกเขาเป็นศิลปินกลุ่มที่อยู่ยาวนานที่สุด
         เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าอะไรที่ทำให้อยู่ด้วยกันมานานถึงสิบห้าปี เอริคได้อ้างถึงทวิตที่ โซ ซุน ฮี ได้ทวีตวันก่อนได้บอกว่าให้นึกถึงใจกันและกันและการปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นไปคือสิ่งที่ยึดเหนี่ยววง

        วงอยู่ยาวนาน ซึ่งเพื่อนร่วมวงต่างเห็นด้วยว่าเอริคเป็นหัวหน้าวงที่เยี่ยมยอดและมินอูเป็นผู้สนับสนุนที่ยิ่งใหญ่ ทั้งหมดทั้งมวลคือ ทุกคนคือทีมเดียวกันและต้องเป็นผู้เล่นที่ควรจะเป็น  มินอูกล่าวเสริมว่า “ตั้งแต่อัลบั้มแรก เราไม่เคยบอกว่าเราจะอยู่กันไปนานเท่านาน ผมคิดว่าเพื่อนร่วมวงทุกคนได้แสดงให้เห็นว่าหัวใจของพวกเราพร้อมจะไปพร้อมกันจนวันสุดท้าย”
         ถ้าเราสามารถมาฉลองครบ 20 30 ปี ได้ เราไม่อาจซ่อนอายุเราได้แต่เราต้องการบอกว่าหัวเราและพลังของเรายังคงเหมือนเดิม”

        ชินฮวาบอกว่า แม้อายุ50 ในอีก15 ปีข้างหน้า หวังว่าแฟนๆจะยังคงมาคอนเสิร์ตของพวกเขา ซึ่งชินฮวาบอกว่าพวกเขาจะพยายามรักษาสุขภาพให้แข็งแรง
         ด้านเอริค บอกว่าในตอนอายุ50 ปี มีสิ่งหนึ่งที่เขาอยากให้เกิดขึ้น นั่นก็คือ หวังว่าตอนนั้นทุกคนจะยังมีชีวิตอยู่ เพราะถ้ามีใครคนหนึ่งตายไปเราก็คงไม่สามารถทำกิจกรรมในฐานะชินฮวาได้อีกต่อ
ไป และถ้าตอนอายุ50เรามีคอนเสิร์ต ก็หวังว่าแฟนๆจะยังคงมาชมเรา”

        เอริคกล่าวเพิ่มเติมว่า “ครั้งหนึ่ง มินอูเคยบอกว่า ถ้าเขาต้องตาย เขาขอตายบนเวที แต่เขาไม่ควรตายบนเวที และหวังว่าตัวเองจะสามารถขึ้นแสดงยาวๆได้ด้วยร่างกายที่แข็งแรง”
เอริคบอกว่า ในอดีตเราเป็นชินฮวาที่เป็นนักร้องแต่ปัจจุบันเราคือนักร้องที่เป็นชินฮวา

          ส่วนเรื่องอัลบั้มใหม่ ตอนนี้ทำไปแล้ว50% แล้ว กำลังอยู่ในขั้นตอนมิกซ์เสียงลงไป
         ด้านจอนจินได้คุยเกี่ยวกับรายการชินฮวา บอร์ดคาสต์ ที่ช่วยโชว์ให้เห็นถึงมิตรภาพของเหล่าสมาชิกแล้วตอนนี้ชินฮวาก็มีไอเดียมากมายในการทำวาไรตี้
          ส่วนเรื่อง เอเชียทัวร์ จะเริ่มต้นที่ญี่ปุ่น,ไต้หวัน และ จีน จากนั้นก็จะมาปิดท้ายที่ โซลอีกครั้งในเดือนสิงหาคม
         ขณะที่เอริค ได้กล่าวขอบคุณแฟนต่างชาติราว 4000 คนที่เดินทางมาชมคอนเสิร์ต และบอกถึงแฟนๆว่าให้รักษาสุขภาพระวังเป็นหวัด

         ฝั่งมินอูบอกว่า ชางโจรักและปกป้องชินฮวามาโดยตลอด ชินฮวาก็จะขออยู่ด้วยกันกับชางโจตลอดไป

        ส่วนในคอนเสิร์ต ชินฮวาได้พูดถึงการเป็นพ่อคน ดงวาน อยากมีลูก สี่คน ,แอนดี้ สามคน,มินอู สามคน ,จอนจิน อยากได้ลูกสาว ,เฮซอง ก็อยากได้ผู้หญิง หนึ่ง ผู้ชายหนึ่ง จิน ก็เลยถามเฮซองว่าจะ
ตั้งชื่อลูกว่าอะไรบ้าง ส่วนเอริคก็อยากได้ลูกสี่คน บรรดาสมาชิกชินฮวาก็เลยคุยกันขำๆเกี่ยวกับลูกในอนาคตของเอริค ดงวานบอกว่า ลูกเอริคน่าะจะชื่อ Moon Ja (แปลว่านวด)  ดี้บอกว่าลูกเอริคน่าะจะชื่อ Mooon Bang Gu  และได้คุยเล่นๆเกี่ยวกับชื่อของลูกเฮซอง เฮซอง มีชื่อจริงว่า จอง พิลเกียว เพื่อนๆในวงก็เลยบอกว่าดังนั้นลูกเฮซอง น่าจะมีชื่อท้ายว่า”Gyo” “เกียว” เหมือนกัน ชินฮวาชางโจวที่ยืนใกล้เวทีก็ตะโกน  แนะนำชื่อให้ว่า “พันเกียว” เล่นเอาทุกคนหัวเราะ เพราะ พานเกียว เป็นชื่อของเมืองที่อยู่ใกล้กับโซล